ราชาผลไม้ ทุเรียน
กินแต่พอดีก็มีประโยชน์

ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ ให้พลังงานสูง มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ก็มีสรรพคุณทางยา สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน

หน้านี้ฤดูนี้จะไม่พูดถึงทุเรียนก็คงไม่ได้ ด้วยที่ทุเรียนได้ถูกขนานนามว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ด้วยรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มีคนชอบและไม่ชอบรับประทานอยู่พอ ๆ กัน

ถ้าในทางสุขภาพแล้วทุเรียนเป็น 'ของต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน' เพราะมีปริมาณค่าดัชนีน้ำตาลและมีไขมันมาก นอกจากนี้ในทุเรียนยังอุดมไปด้วยกำมะถัน เมื่อทานเข้าไปมาก ๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ร้อนในและรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวอีกด้วย จึงควรรับประทานแต่น้อย

แต่จริง ๆ แล้วทุเรียนไม่ได้น่ากลัวเสมอไป อันที่จริงในทางการแพทย์แผนไทย ทุกส่วนของทุเรียนถือว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณทางยา สามารถนำมาใช้ประโยชน์กับร่างกายคนเราได้

• ใบมีรสขมเย็นเฝื่อน มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ แก้ดีซ่าน ขับพยาธิ
• เนื้อทุเรียนมีรสหวานร้อน มีสรรพคุณให้ความร้อนแก้โรคผิวหนังท้าให้ฝีแห้งและขับพยาธิ
• เปลือกทุเรียนมีรสฝาดเฝื่อนใช้สมานแผลแก้น้ำเหลืองเสียพุพองแก้ฝีตานซางคุมธาตุแก้คางทูม และไล่ยุงและแมลง
• รากมีรสฝาดขมใช้แก้ไข้และแก้ท้องร่วง

คนในประเทศ ลาว เขมร และพม่า เมื่อครั้งอดีตมีความเชื่อว่าทุเรียนมีคุณสมบัติให้ความร้อนทำให้เกิดเหงื่อออกมากกว่าปกติ และลดความร้อนนี้ด้วยการรินน้ำลงในเปลือกทุเรียนแล้วดื่มน้ำนั้น อีกวิธีคือรับประทานเนื้อทุเรียนไปพร้อมกับมังคุด ด้วยคิดว่ามีคุณสมบัติให้ความเย็น

---

King of Fruits: Durian Eat in Moderation for Health Benefits Durian, the king of fruits, is an energy-dense fruit with high sugar and fat content, making it unsuitable for diabetics. However, it also has medicinal properties, and every part of the fruit can be used for various benefits.

During this season, it’s impossible not to mention durian, which has been crowned the "king of fruits." Its distinctive taste and aroma create a love-it-or-hate-it experience for many people.

From a health perspective, durian is considered a "forbidden fruit for diabetics" due to its high glycemic index and fat content. Moreover, durian is rich in sulfur, which, when consumed in excess, can cause a rapid spike in blood sugar levels, leading to heatiness and discomfort. Therefore, it should be eaten in moderation.

However, durian is not entirely bad. In fact, in traditional Thai medicine, every part of durian has medicinal properties and can be beneficial to the human body.

• Leaves: Bitter and astringent, they help reduce fever, treat jaundice, and expel parasites.
• Flesh: Sweet and warm, it generates heat, treats skin diseases, helps dry up boils, and expels parasites.
• Peel: Astringent and slightly bitter, it is used to heal wounds, treat skin infections, reduce abscesses, and even repel mosquitoes and insects.
• Roots: Bitter and astringent, they help reduce fever and treat diarrhea.

In the past, people in Laos, Cambodia, and Myanmar believed that durian generates excessive heat, causing excessive sweating. To counteract this, they would pour water into the durian shell and drink it. Another common practice was eating durian alongside mangosteen, believing that the latter’s cooling properties would balance out the durian’s heat.

---

ขอขอบคุณข้อมูลจาก lovefitt.com