ส้มตำ มีดีกว่าแค่ความแซ่บ

ส้มตำ นั้นเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมที่มีรสชาติอร่อยถูกปากคนไทยหลายๆคน และยังเป็นเมนูอาหารประจำภาคอีสานของเราเลยก็ว่าได้ รสชาติของส้มตำนั้นมีเอกลักษณ์ก็คือความแซ่บ เผ็ด ร้อน จนบางครั้งอาจถึงขั้นน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว แต่ใครจะรู้บ้างว่านอกจากความอร่อยแล้ว ส้มตำยังมีประโยชน์มากกว่าที่คิด ทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทางยา
และยังมีคุณค่าจากพืชสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบในส้มตำอีกด้วย ได้แก่

.
มะละกอ : มีวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัด เป็นยาบำรุงน้ำนม ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง แก้โรคเลือดออกตามไรฟันและใต้ผิวหนัง ช่วยให้ไม่แก่ก่อนวัย แก้ริดสีดวงทวาร ขับพยาธิ เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยซับและถอนพิษร้อนในร่างกายได้

.
มะเขือเทศ : บำรุงผิวและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความชรา และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ เช่น มะเร็งหรือโรคหัวใจ

.
พริกขี้หนู : ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อยอาหาร แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ขับเหงื่อ แก้ปวดหลังปวดเอว แก้บวม เคล็ดขัดยอก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

.
กระเทียม : แก้ไอ ขับลม ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคผิวหนัง ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด ขับสารพิษ ฆ่าหรือยับยั้งเชื้อแบคทีเรียแทบทุกชนิด ป้องกันมะเร็งและป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว

.
มะนาว : มีฤทธิ์แก้อักเสบ ช่วยย่อยอาหาร และสกัดสารพิษ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งทนทาน ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยป้องกันและต้านทานโรค แก้หวัด แก้เสมหะ แก้ไอ ลดไข้ แก้กระหายน้ำทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยขับลม ขับปัสสาวะ

.
น้ำตาลปี๊บ : ทำจากจั่นมะพร้าวและจั่นของตาล มีวิตามิน เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก

.
น้ำปลา : ทำมาจากปลาสดหมักกับเกลือ เป็นแหล่งโปรตีนและกรดอะมิโน และยังมีพวกสารประกอบไนโตรเจน วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ อีกหลายชนิด ซึ่งจำเป็นกับผู้ที่ขาดสารอาหารพวกนี้

.
ถั่วฝักยาว : มีแร่ธาตุ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และมีวิตามินซีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี มีกากใยอาหารที่สามารถละลายในน้ำได้ เป็นยาบำรุงไต และม้าม แก้ร้อนใน ช่วยลดคอเลสเตอรอล

---

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com